ธรรมชาติกับมนุษย์เป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ ถึงแม้มนุษย์จะมีวิทยาการก้าวล้ำขนาดไหนก็ตาม แต่ส่วนลึกในจิตใจของมนุษย์ก็ยังคงต้องการธรรมชาติ โดยเฉพาะในวันที่เราทำงานกลับบ้านมาเหนื่อยๆ สภาพจิตใจอ่อนล้า ไม่แจ่มใส เราอยากเห็นใบไม้, สูดกลิ่นไอดิน, เห็นสีน้ำตาลของของต้นไม้มาช่วยชำระจิตใจบ้าง มันจะดีแค่ไหนถ้าเรายกธรรมชาติมาไว้ที่บ้าน วันนี้เราเลยมีวิธีแต่งบ้านแบบคนรักธรรมชาติมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ

ต้นไม้ใหญ่เยียวยาจิตใจ

หากคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งหลงรักธรรมชาติ และชอบความรู้สึกในการได้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เราอยากแนะนำให้คุณหาต้นไม้ขนาดใหญ่มาตั้งไว้ใจกลางบ้านหรือตั้งไว้ติดกับพนังในมุมห้องรับแขกก็ได้ โดยต้นไม้นี้ควรเป็นต้นไม้แห้งที่ตายแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องบุกป่าฝ่าดงเพื่อไปตัดมาหรอก แค่ติดต่อกับร้านขายไม้แล้วให้เขามาจัดส่งถึงบ้านก็พอ และอย่าลืมจัดโทนสีของบ้านให้เป็นสีน้ำตาล แซมสีเขียวด้วยจะฟินยิ่งขึ้น

 Wallpaper ลายใบไม้

ลายใบไม้ในที่นี้อยากให้เลือกแบบเก๋ๆ หน่อยนะคะ เช่น ลายใบตอง เป็นต้น เพียงแค่ใช้ Wallpaper นี้ในห้องนอนหรือห้องรับแขกก็ได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังพักผ่อนอยู่กลางดงในป่าดิบชื้นแล้วค่ะ รวมทั้งบนโต๊ะอาจหาต้นไม้ต้นเล็กๆ มาประดับเข้าไปด้วย มันก็จะช่วยในการเยียวยาจิตใจของคุณได้มากขึ้น

เฟอร์นิเจอร์ไม้เก๋ๆ

เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้นั้น สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ค่อยรู้สึกมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ เราจึงอยากขอแนะนำให้ในวันหยุดของคุณออกไปเสาะหาร้านขายเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ สักร้าน ที่ขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ไม่เหมือนใคร เช่น เก้าอี้ที่เอาท่อนไม้ทรงกลมขนาดกลางมาสร้าง ไม่จำเป็นต้องขัดมัน ขัดเรียบอะไรทั้งนั้น เพราะความดิบคือสิ่งที่เราต้องการ หรือจะเป็นเก้าอี้ที่ผ่านการตกแต่งโดยเถาวัลย์ก็ได้ เก๋เหมือนกัน

พรมสายธรรมชาติ

การปูพื้นบ้านด้วยพรหม มีข้อดีหลายประการเช่น ทำให้เท้าอบอุ่นในตอนกลางคืน , ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง , ไม่ลื่น , เวลาเดินให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนใบไม้ใบหญ้า ยิ่งเลือกพรมแบบนุ่มๆ ยิ่งฟิน และแน่นอนว่าพรมเหล่านั้นจะต้องเป็นสายเขียวด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว หรือมีลวดลายใบไม้ ดอกไม้ จัดมาให้หมด

วางกระถางต้นไม้เล็กๆ ไว้รอบบ้าน

โดยต้นไม้เหล่านี้คุณต้องทำการศึกษามันก่อนนะ ว่ามันชอบแดดไหม ถ้าไม่ชอบแดดมากก็จัดมาโลด นำมาวางไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้านที่ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้โดยง่าย เพียงเท่านี้ก็เหมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว